สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม :
Socialist Republic of
Vietnam
ประมุข : เจือง เติ๋น
ซา
หน่วยเงินตรา : ด่อง
ลักษณะภูมิประเทศ
เนื่องจากแผ่นดินของเวียดนามมีลักษณะแคบแต่มีความยาวมาก
ทำให้ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยอาจแบ่งได้เป็น 3
ส่วนคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
ภาคเหนือ
ภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสูงมากมาย โดยเฉพาะเทือกเขาฟานซีปาน
(Fansipan) สูงถึง 3,143 เมตร ซึ่งสูงที่สุดในอินโดจีน มีแม่น้ำสำคัญคือ แม่น้ำกุง
(Cung) ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแดงเป็นดินดอนสามเหลี่ยมที่อุดมสมบูรณ์ (Red River
Delta) เหมาะแก่การเพาะปลูกและยังเป็นที่ตั้งของเมืองฮานอย
(Ha Noi) อันเป็นเมืองหลวง นอกจากนี้ ยังมีที่ราบลุ่ม Cao Bang Lang Son และ Vinh Yen รวมถึงอ่าว Halong Bay อันมีชื่อเสียงด้านธรรมชาติที่งดงาม เวียดนามมีชนกลุ่มน้อยหลากหลาย และเนื่องจากพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตอากาศหนาวซึ่งได้รับอิทธิพลกระแสอากาศจากขั้วโลกที่พัดผ่านไซบีเรีย และจีน เข้ามายังเวียดนาม ทำให้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น
(Ha Noi) อันเป็นเมืองหลวง นอกจากนี้ ยังมีที่ราบลุ่ม Cao Bang Lang Son และ Vinh Yen รวมถึงอ่าว Halong Bay อันมีชื่อเสียงด้านธรรมชาติที่งดงาม เวียดนามมีชนกลุ่มน้อยหลากหลาย และเนื่องจากพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตอากาศหนาวซึ่งได้รับอิทธิพลกระแสอากาศจากขั้วโลกที่พัดผ่านไซบีเรีย และจีน เข้ามายังเวียดนาม ทำให้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น
ภูมิอากาศในเขตภาคเหนือแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู
คือ
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) มีฝนตกเล็กน้อยและความชื้นสูง
อุณหภูมิประมาณ 17 ํ C - 23 ํ C

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 23 ํC - 28 ํ C
ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในรอบปี คือ ประมาณ 7 ํC - 20 ํ
C แต่ในบางครั้งอุณหภูมิอาจลดลงถึง 0 ํ C เดือนที่หนาวเย็นที่สุดคือ มกราคม
เมืองสำคัญทางภาคเหนือ ได้แก่
ฮานอย (Ha Noi) เป็นเมืองหลวง มีพื้นที่ประมาณ 921 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2.2
ล้านคน ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดง โดยมีแม่น้ำมากมายไหลผ่าน ได้แก่ The
Duong, The Cau, The Ca Lo,
The Day, The Nhue, The Tich, The To Lich และ The Kim Nguu นอกจากนี้ ฮานอยยังเป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศและเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าทางภาคเหนือ มีสนามบินนานาชาติที่สำคัญคือ Noi Bai International Airport
The Day, The Nhue, The Tich, The To Lich และ The Kim Nguu นอกจากนี้ ฮานอยยังเป็นศูนย์กลางการบริหารประเทศและเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าทางภาคเหนือ มีสนามบินนานาชาติที่สำคัญคือ Noi Bai International Airport
ไฮฟอง (Hai Phong) มีพื้นที่ 1,503 ตารางกิโลเมตร ประชากรราว 1.7 ล้านคน
เป็นเมืองท่าสำคัญในภาคเหนือและเป็นเขตอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเคมี
ต่อเรือ และวัสดุก่อสร้าง มีท่าเรือสำคัญคือ Hai Phong Port และสนามบิน Cat Bi
Airport
กว๋างนินห์ (Quang Ninh) มีพื้นที่ 5,899 ตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 1 ล้านคน
กว๋างนินห์เป็นเมืองท่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม มีท่าเรือสำคัญได้แก่
Hon Gai Port นอกจากนี้ ยังเป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรมากมาย อาทิ
ป่าไม้ และเป็นแหล่ง ถ่านหินใหญ่ที่สุดในประเทศ
รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมีชื่อเสียงระดับโลก คือ อ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
เซินลา (Son La) มีพื้นที่ 14,055 ตารางกิโลเมตร ประชากร 9 แสนคน
โดยพื้นที่กว่าร้อยละ 80 เป็นไหล่เขา ซึ่งเหมาะแก่การทำฟาร์มโคนม
มีสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ชาดำ
ลายเจิว (Lai Chau) มีพื้นที่ 7,365 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2 แสนคน มีสนามบินคือ
Dien Bien Phu Airport
เตวียนกวาง (Tuyen Quang) มีพื้นที่ 5,868 ตารางกิโลเมตร ประชากร 7 แสนคน
เป็นจังหวัดที่อุดมไปด้วยป่าไม้ และไม้มีค่าต่างๆ รวมถึงพืชสมุนไพรกว่า 1,000
ชนิด

ภาคกลาง
ภาคกลางของเวียดนามยังมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มากมาย
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงซึ่งเต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ หาดทราย เนินทราย และทะเลสาบ
เป็นเขตพื้นที่ป่าไม้สำคัญที่สุดของเวียดนาม สภาพภูมิอากาศค่อนข้างร้อนตลอดปี
และมีเพียง 2 ฤดูคือ
ฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) เดือนที่อากาศร้อนที่สุดคือ มิถุนายน-กรกฎาคม อุณหภูมิเกือบ
40 ํC
ฤดูแล้ง (ตุลาคม-เมษายน) เดือนที่อากาศเย็นที่สุดคือ มกราคม อุณหภูมิเกือบ 20
ํC
เมืองสำคัญทางภาคกลาง ได้แก่
ถัวเทียน - เว้ (Thua Tien - Hue) มีพื้นที่ 5,009 ตารางกิโลเมตร ประชากร 1 ล้านคน
เป็นอดีตเมืองหลวงของเวียดนาม
ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
ดานัง (Da Nang) มีพื้นที่ 1,256 ตารางกิโลเมตร ประชากร 7 แสนคนเป็นศูนย์กลางธุรกิจ
การท่องเที่ยว และเป็นเมืองท่าสำคัญ โดยมีสนามบินคือ Da Nang Airport และท่าเรือ
Tien Sa Seaport
ภาคใต้
แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่ราบสูง
แต่ก็มีที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong River Delta หรือที่รู้จักกันในชื่อ กู๋ลองยาง
- Cuu Long Giang) อันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของนครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) หรืออดีตไซ่ง่อน
(Saigon)
ภูมิอากาศของภาคใต้ค่อนข้างร้อน
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 ํ C มี 2 ฤดูเช่นเดียวกับภาคกลาง คือ
ฤดูฝนช่วงเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน เดือนที่อากาศร้อนที่สุดคือเมษายน อุณหภูมิประมาณ
39 ํC
ฤดูแล้งช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เดือนที่อากาศเย็นที่สุดคือ มกราคม
อุณหภูมิประมาณ 26 ํC
ภาคใต้มีเมืองสำคัญ ได้แก่
โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) มีพื้นที่ 2,095 ตารางกิโลเมตร ประชากร 5.4
ล้านคน เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า การนำเข้าส่งออก และเป็นเมืองท่าสำคัญ
โดยมีสนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat Airport และมีท่าเรือ Saigon Port โฮจิมินห์
ได้รับฉายาว่า "ไข่มุกแห่งเอเชียตะวันออก"
เกิ่นเธอ (Can Tho) มีพื้นที่ 1,390 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 1.1 ล้านคน
เป็นเมืองอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารที่สำคัญ
และเป็นแหล่งปลูกข้าวใหญ่ที่สุดของเวียดนาม
เตี่ยนยาง (Tien Giang) มีพื้นที่ 2,367 ตารางกิโลเมตร ประชากร 1.6 ล้านคน
เนื่องจากเตี่ยนยางตั้งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ซึ่งมีดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเพาะปลูกพืชเขตร้อน
จึงเป็นแหล่งผลิตข้าวและผลไม้ต่างๆ อาทิ ทุเรียน มะม่วง
รวมถึงผลไม้เมืองร้อนชนิดอื่นๆ
บาเรีย - หวุงเต่า (Ba Ria - Vung Tau) มีพื้นที่ 1,975 ตารางกิโลเมตร ประชากร 8
แสนคน เป็นเมืองที่มีการผลิตน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติ
โดยเวียดนามสามารถผลิตน้ำมันได้มากที่สุดในคาบสมุทรอินโดจีน
แหล่งผลิตสำคัญอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง เรียกว่า "Bac Ho" หรือ "White
Tiger"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น